เจมส์ มาร์ เพอร์เฟคทุกมุมมอง หันหลังให้ธุรกิจพันล้าน เดินตามทางของตน
เจมส์ มาร์ เพอร์เฟคทุกมุมมอง เป็นผู้แสดงนำชายชายหนุ่มสุดหล่อที่ผู้หญิงจิตใจละลายเมื่อใดก็ตามได้มองเห็นรอยยิ้ม สำหรับ เจมส์ มาร์ ตี๋ หล่อสุดฮอต ที่ใครๆต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเพอร์เฟคทุกแง่ทุกมุม ไม่ว่าจะเรื่องรูปร่าง เค้าหน้า แล้วก็ความสามารถการแสดงที่เบาๆเติบโตในแวดวงสนุกสนานมาถึง 9 ปี ส่งผลงานออกมาให้แฟนคลับดูกันแบบฟินๆนับ 10 เรื่อง
อย่างปัจจุบัน เจมส์ มาร์ ก็ขอเปลี่ยนแปลงแนวจากผู้แสดงนำชายตี๋อินเตอร์ หล่อ เริ่ด มารับบทชายหนุ่มคนซื่อที่มีความรู้ความสามารถพิเศษอย่างการเห็นผี ในละครคอมมาดี้ “ดวงตาที่ 3″ ตามติดนางเอกสาว “ไม่ว นิษฐา” กำลังจะออนแอร์ทางช่อง 3 เร็วๆนี้
งานนี้ sanooentertains.live พลาดมิได้ ขอคว้าตัวชายหนุ่มคนนี้มาสนทนาถึงการเปลี่ยนแนวมาเล่นคอมมาดี้ในคราวนี้ พร้อมเปิดทุกเรื่องราวในชีวิต การเป็นผู้สืบสกุลนักธุรกิจพันล้าน ผู้ครอบครองนิคมอุตสาหกรรมมีชื่อเสียง แม้กระนั้นขอเดินตามทางความพอใจของตน พร้อมเปิดสถานะหัวใจและก็มุมมองความรัก จะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลย
ดวงตาที่ 3 ประเด็นนี้หน้าที่คืออะไร และก็การทำงานในเรื่องสนุกสนานมากแค่ไหน?
พบทั้งคน รวมทั้งมีเรื่องมีราวราวที่เขาต้องตามใส่ความรักด้วย ค่อนช้างเป็นละครที่วุ่นวาย (หัวเราะ) มีเรื่องเยอะไปหมดเลย”
“การถ่ายทำรื้นเริงมากมายนะครับ ไม่เสมือนไปดำเนินการ แม้กระนั้นราวกับพวกเราเป็นเด็กที่ไปสถานศึกษา ไปพบเพื่อนฝูง สนุกสนานกับการทำงานมากมาย เพียงพอใกล้ถึงเวลากลับไปอยู่ที่บ้านก็ไม่ค่อยต้องการกลับ อารมณ์นั้นเลยจริงๆนะ พอเพียงพวกเรามากมายองทุกคนปฏิบัติงานเต็มกำลังแม้กระนั้นก็เล่นกันแหย่กัน โต้แย้งกัน ทะเลาะกัน มีมิตรภาพ เคมี ที่ถูกกันดีเลิศๆแล้วในเวลานี้ก็คือเป็นกลุ่มดาวติ๊กต็อกกันไปแล้วขอรับ”
ไม่เคยเล่นคอมมาดี้มาก่อนเลย ยากมั้ย?
“ผมไม่เคยเล่นคอมมาดี้เต็มกำลังอย่างนี้มาก่อนเลย ถามคำถามว่ายากมั้ยก็ยากครับผม ด้วยเหตุว่าพวกเรามีประสบการณ์แต่ละครบู๊ ละครดราม่า พอเพียงมาพบจังหวะที่เป็นคอมมาดี้ ข่าวบันเทิง อีกทั้งกรรมวิธีการแสดง กรรมวิธีควบคุม ก็นับว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม การเล่นแต่ละเทคก็แตกต่างกัน ทำให้งงงวยอยู่ทีแรกๆๆนะครับ”
“ประเด็นนี้ความขบขันมันอยู่ที่เหตุการณ์ที่เกิดมากยิ่งกว่าเดิมกว่าขอรับ จริงๆเรื่องราวซีเรียสนะ เกิดเรื่องความเป็นความตาย แม้กระนั้นเป็นการมองเห็นผี หนีผี ตามหาคนนู้นคนนี้ ด้วยเหตุการณ์แล้วก็คาแร็กเตอร์ของแต่ละคน ก็เลยมีความคอมมาดี้หนักมากมาย”
มาพบกับ มิว นิษฐา เต็มๆเรื่องแรก เป็นเคมีที่แฟนคลับพูดว่าน่าติดตามมากมาย?
“ใช่ครับผม ที่ผ่านมาพวกเราพบกันในคุณผู้ชายจุฑาเทวดา แต่ว่าอยู่กันคนละตอน เกิดเรื่องแรกของอีกทั้งผมและก็เขา โอกาสนี้มาเจอะกันเต็มๆก่อนหน้านี้พวกเรารู้จักกันบ้าง แม้กระนั้นมิได้สนิทสนทนากันมากมาย พอใช้มาเล่นหัวข้อนี้ทำให้พวกเราสนิทกันเพิ่มมากขึ้น มีไลฟ์สไตล์ ถูกใจรับประทาน ถูกใจอะไรคล้ายกัน ย่าดวงดาว ที่สุดของความสุข น้องมียา ยิ่งทำให้หลักการทำงานของพวกเราง่ายดายมากยิ่งขึ้นครับผม ด้วยความสนิทของพวกเราทั้งสองก็เลยอาจส่งผลให้งานออกมามีเคมีที่แข็งแรงพอควรนะครับ”
เจมส์ อยู่แวดวงมานานพอเหมาะพอควร รู้สึกเข้าที่เข้าทางกับอาชีพนี้หรือยัง?
“ผมอยู่มา 9 ปี เล่นละครมา 10 เรื่อง ก็มีความรู้สึกว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเข้าที่เข้าทางดีนะขอรับ ทราบสีกว่าพวกเราก็มีประสบการณ์ดูเหมือนจะทุกด้านมาแล้ว ในช่วงเวลานี้ก็มีเด็กใหม่ๆเข้ามาเต็มไปหมดเลย พวกเราก็เสมือนรุ่นที่ขยับขึ้นมา ด้วยอายุก็ใกล้เข้าเลข 3 แล้ว ก็เรียกว่าโตในระดับนึงแล้ว แม้กระนั้นจริงๆยังตื่นเต้นครั้งใดก็ตามได้ปฏิบัติงาน ตื่นเต้นเมื่อใดก็ตามจึงควรขึ้นโชว์ ตื่นเต้นที่กำลังจะได้ทำอะไรสักอย่าง เสมือนพวกเรายังมีความต้องการที่จะดำเนินงานอยู่ เพราะว่าพวกเราซีเรียสแล้วก็ให้ความเอาใจใส่กับงานพวกเราก็เลยตื่นเต้นนะครับ”
ย้อนกลับไปวัยเด็กความฝันของพวกเราเป็นการเข้าแวดวงเลยหรือไม่?
“ไม่เลยขอรับ จริงๆควาฝันของผมตอนเด็กๆมีหลายประเภทมากมายครับผม โดยมากคือเรื่องของกีฬา ไม่เคยมีความคิดว่าจะได้เข้าแวดวงเพลิดเพลินเลย แม้กระนั้นพอใช้ได้เข้ามาดำเนินการนี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเรามีความรู้สึกว่าไม่คาดฝัน ชีวิตมนุษย์ก็ไม่แน่นอนจริงๆในเมื่อพวกเราได้โอกาสได้เข้ามาอยู่ที่ตรงนี้พวกเราก็ทำให้เหมาะสมที่สุด เท่าที่พวกเรายังมีเวลายังสามารถทำเป็นอยู่ ก็นับว่าถูกใจครับผม เป็นอาชีพที่พวกเราได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมได้ สร้างความรื่นเริงใจ ความสนุกสนานให้กับผู้คนได้ ยิ่งไปกว่านี้พวกเราก็ยังสามารถดูแลครอบครัวของพวกเราได้จากกระบวนการทำอาชีพนี้ และก็รู้สึกโชคดีที่ได้โอกาสได้ทำครับผม”
คนค่อนข้างจะจุดโฟกัสประเด็นการเป็น “ผู้สืบสกุลนักธุรกิจพันล้าน” ของพวกเรา?
“นะครับ (หัวเราะ) ถ้าเกิดถามคำถามว่ารู้สึกอย่างไร ผมก็เฉยๆถ้าหากมันเกิดเรื่องจริง ผมอาจจะไม่ต้องปฏิบัติงานแล้ว (หัวเราะ) แม้กระทั่งเกิดเรื่องจริง พวกเราก็ยังจำเป็นต้องปฏิบัติงานอยู่ดีเพราะว่าผมมีความคิดว่าต้องการดำเนินการที่พวกเราพอใจ มีแพสชั่น ได้ทำอะไรด้วยตัวของตนเองขอรับ ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาคนเขาก็จะเอ่ยถึงหัวข้อนี้บ้าง แต่ว่าส่วนนั้นก็เป็นธุรกิจของทางครอบครัว ตัวผมเองก็ทำในพาร์ทของพวกเราที่ตรงนี้ ข้างหลังๆก็ไม่ค่อยมีคนจุดโฟกัสหัวข้อนี้สักเท่าไหร่แล้ว เนื่องจากว่าทุกคนก็มีความเห็นว่าผมก็ทำทั้งหมดทุกอย่างด้วยตัวผมเอง”
“คนจำนวนไม่น้อยก็แต่งงานที่ทำธุรกิจ ผมเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งส่วนใดของครอบครัว แม้กระนั้นมิได้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของธุรกิจ เพราะเหตุว่ามิได้ทำ พวกเรากำลังปฏิบัติงานของพวกเรา กำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่นะครับ”
เพราะอะไรถึงเลือกออกมาเดินตามทางของตน แทนการถักต่อธุรกิจ?
“อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะความเป็นเด็กด้วยมั้งครับผม ที่ต้องการทำอะไรด้วยตัวเอง ต้องการทำในสิ่งที่ถูกใจและก็พึงพอใจ ตอนผมอายุ 18-19 ผมบางทีอาจจะมิได้ดูหัวข้อการทำธุรกิจ มันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมยังดำเนินงานที่ตรงนี้อยู่ แต่ว่าในอนาคตก็ไม่แน่หากมันถึงเวลาที่พวกเราจำเป็นต้องทำ หรือ ไม่ทำอะไรก็ว่ากันไป ก็เป็นรื่องของอนาคตไป แต่ว่าจะต้องบอกก่อนว่าธุรกิจของที่บ้านเขามีคนทำกันอยู่แล้ว พวกเราเป็นบุตรหลานของอากง อาม่า ที่ใช้ชื่อสกุล รวมทั้งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของครอบครัวเพียงแค่นั้นครับผม”
ทางครอบครัวต้องการที่จะให้ทดลองทำดูบ้างมั้ย?
“ผมมั่นใจว่าครอบครัวทุกครอบครัวก็อาจจะต้องการให้บุตรหลานตนเองดำเนินงาน สืบต่อ อยู่แล้วครับผม แต่ว่าเขาก็รู้อยู่แล้วนะครับว่าทุกคนมีจุดยืน ทางบ้านผมเองเขาก็ทราบขอรับว่าผมคิดอะไร ทำอะไรอยู่ ก็มิได้มีความหมายว่าวันนึงเขาจะไม่สอน หรือ เสนอแนะ หรือเปล่าช่วยพวกเราถ้าเกิดถึงวันที่พวกเราบางทีก็อาจจะจำเป็นต้องทำ แม้กระนั้นในในตอนนี้ผมยังมิได้เรียน หรือ ทำอะไรเกี่ยวกับธุรกิจที่บ้านเลย อย่างที่บอกทุกสิ่งทุกอย่างมีคนทำอยู่แล้ว ส่วนตัวผมหากวันนึงจะต้องทำผมก็ต้องการทำให้สุดกำลัง แต่ว่าในในตอนนี้ผมยังทำไม่ได้ เนื่องจากพวกเราก็ดำเนินงานของพวกเราอยู่ครับผม แม้กระนั้นพวกเราก็เรียนรู้ในสิ่งที่พวกเราพึงพอใจ เผื่อวันนึงที่พวกเราจะได้โอกาสได้ทำนะครับ”
แล้วสิ่งที่พวกเราพึงพอใจที่บางครั้งอาจจะเป็นแผนสำหรับอนาคตเป็นอย่างไรบ้าง?
“ผมเป็นคนพอใจเรื่องกีฬากอล์ฟ เป็นคนเล่นกอล์ฟตลอดระยะเวลา ผมเป็นคนถูกใจท่องเที่ยว ภาษา วัฒนธรรม ถูกใจรถยนต์ อะไรอย่างนั้นนะครับ ปัจจุบันนี้มีเวลาพวกเราก็เริ่มศึกษาเล่าเรียนสิ่งที่พวกเราพึงพอใจตลอดใบ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีอะไรบางอย่างที่พวกเราสามารถทำเป็นในอนาคตครับผม”
มาเรื่องหัวใจกันบ้าง มีคู่รัก หรือ มีคนคุยหรือยัง?
“ไม่มีเลยขอรับ เรื่องความรักสำหรับผม ผมเป็นคนมิได้รีบที่จะจำต้องไปพบหรือไปคุยกับคนใด ถ้าเกิดจะคุยก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซัพพอร์ตซึ่งกันและกันแบบงั้นมีครับผม มีเยอะแยะด้วย แม้กระนั้นถ้าเกิดแบบถึงกับขนาดเป็นคนคุยหรือเรียกว่าแฟนผมยังไม่มี และก็ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีด้วย เนื่องจากว่าพวกเราก็ยังดำเนินการอยู่ วัววิดในขณะนี้มิได้พบผู้ใดด้วย ถึงแม้ว่าจะจะคุยกับคนใดกันแน่ แต่ว่าพวกเราดูแลเขามิได้ ก็อย่าเลยดีมากกว่า”
“เมื่อใดที่พวกเราพบคนคนนั้น ผมก็ต้องการให้คนคนนั้นมาในจังหวะขณะที่ใช่แล้วก็ดี เพื่อที่พวกเราจะได้อยู่ร่วมกันไปนานๆคำว่าจังหวะตอนที่ใช่สำหรับผม ผมก็ชี้แจงผิดเช่นเดียวกัน ที่ผมเคยพบ หรือ ที่สหายๆผมเขาคบใครกันแน่แล้วอยู่กันไปยาวๆก็มีต้นเหตุจากความไม่ได้ตั้งใจที่จะจะต้องค้นหา บังเอิญว่าทุกๆอย่างทำให้เจอะกัน มาคบกันได้ ซึ่งผมก็ยังไม่มีโมเมนต์นั้น”
“หากผมจะคบใครซักคน แล้วจำต้องไปค้นหา จะต้องเข้าพบเขา ทุกสิ่งทุกอย่างมันมองยากไปหมด แต่ว่าถ้าเกิดทุกสิ่งทุกอย่างมาตามจังหวะชีวิตก็น่าจะเป็นอะไรที่ดี แล้วก็ค่อยว่ากันอีกครั้ง ผมเป็นคนเกลียดเศร้าใจเวลาจำต้องแยกทางจะต้องเลิกรากับใครซักคน กลัวความเศร้าใจ มันไม่เหมาะสมกับพวกเราที่พวกเราจะต้องมีความรักเป็นประจำขอรับ”
ถูกใจคนแบบไหน?
“เรื่องรูปพรรณสัณฐาน ไม่มีสเปคนะครับ ผมว่าทุกคนมีความน่ารักน่าเอ็นดู มีความสวยงามในแบบของเขา ถ้าเกิดมองเห็นแล้วถูกใจก็คือถูกใจ จะเป็นแบบไหนก็เถิด ถ้าเกิดคนจะถูกใจมันก็ถูกใจ แต่ว่าผมจะดูอยู่ 2 เรื่องเป็นเรื่องเสน่ห์สำหรับในการดำเนินการ แพสชั่นของเขา ผู้ที่มีแพสชั่นสูงยิ่งมีเสน่ห์ อีกหัวข้อเป็น ความรู้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน หัวข้อนี้อาจจะเกิดเรื่องที่ยากที่สุดขอรับ”
เป็นคนต้องการแต่งงาน ต้องการมีลูกมั้ย?
“ผมว่าทุกคนก็อาจจะต้องการไปถึงจุดนั้นสักหนึ่งครั้งนึงนะครับ แม้กระนั้นในโลกใบนี้พวกเราก็ได้มองเห็นครับผมว่า บางบุคคลเขาก็อยู่โสดเขาก็เป็นสุขได้เช่นเดียวกัน มันมิได้จำเป็นต้องว่าควรจะมี แม้กระนั้นถ้าเกิดมีก็เกิดเรื่องที่ดีของชีวิตไปขอรับ”
คนดูพวกเราว่าเป็นหนุมเพอร์เฟค จริงๆพวกเราดำเนินชีวิตอย่างไร?
“ตัวตนผมจริงๆจะค่อนข้างจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนมองดู ทุกคนบางทีก็อาจจะดูจากภาพของการทำงาน ด้วยเหตุว่าเห็นด้วยว่าเวลาทำงานผมค่อนจะมานะให้ 100% ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง ใบหน้า การแต่งกาย ส่วนการใช้ชีวิตของผมค่อนจะสบายๆมากยิ่งกว่า ในชีวิตจริงถ้าหากคนไหนกันแน่เคยพบผมเวลาออกไปจ่ายตลาด ก็จะสวมเสื้อยืด กางเกงที่มีขาสั้น รองเท้าแตะ ผูกผมเป็นซามูไร ออกไป (หัวเราะ) ดำเนินชีวิตง่ายสุดๆๆไม่ใช่คนเยี่ยมขนาดนั้นสำหรับการดำเนินชีวิตแระจำวัน แต่ว่าเรื่องงานจะออกจะเยี่ยมนะครับ”
ในที่สุดฝากผลงานรวมทั้งฝากถึงแฟนคลับหน่อย
“ผมฝากละครเรื่องดวงตาที่ 3 ด้วยครับ ออนแอร์ 31 เดือนสิงหาคม นี้ทาง ช่อฃ 3 กด 33 ครับ และก็ต้องการฝากให้ดูแลตนเอง ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายกันดีๆด้วยขอรับ”
ยิ่งรู้จักยิ่งรักคุณจริงๆสำหรับตี๋ชายหนุ่มสุดฮอต “เจมส์ มาร์” อีกทั้งเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง และก็ความมุ่งมั่น บอกเลยว่าพกมาเต็มที่ทุกๆอย่าง สำหรับแฟนคลับของเจมส์ ก็อย่าลืมเกาะหน้าจอคอยดู ดวงตาที่ 3 ใกล้ออนแอร์เหลือเกินแล้ว จะสนุกขนาดไหนคอยดูกันได้เลย